โรคสะเก็ดเงิน (PSORIASIS) :
สาเหตุ อาการ และการดูแลรักษา

Article Read Duration 5 min read

โรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) เป็นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรังที่มีการถ่ายทอดผ่านจากรุ่นสู่รุ่น และมีแนวโน้มที่จะลุกลามในช่วงที่มีความเครียด การติดเชื้อ การบาดเจ็บที่ผิวหนัง หรือเมื่อใช้ยาบางชนิด อาการโดยทั่วไปของโรคสะเก็ดเงินคือจะมีผื่นเป็นแผ่นสีแดงบนผิวหนังที่ถูกปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีเงิน ซึ่งพบได้ในบริเวณต่างๆ เช่น หัวเข่า ข้อศอก หน้าท้อง หลังช่วงล่าง และหนังศีรษะ แผ่นสะเก็ดเงินเหล่านี้ทำให้มีอาการคัน รู้สึกแสบร้อนหรือเจ็บได้

 

สาเหตุที่แท้จริงของโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis)? ระบบภูมิคุ้มกันทำงานมากเกินไปทำให้มีการเพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์ที่ผิวหนัง โรคสะเก็ดเงินสามารถรักษาได้ด้วยครีม การบำบัดด้วยแสง ยารับประทานบางชนิด เช่น เมโธเทรกเซท สปาบำบัดหรือ "ยากลุ่มชีวภาพ" แบบฉีดโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) และโรคผิวหนังอักเสบ (eczema) มีลักษณะบางอย่างที่เหมือนกัน แต่ก็มีความแตกต่างที่ชัดเจนซึ่งคุณจะพบได้ในแผนภูมิสรุปของเราในบทความนี้

อะไรคือโรคสะเก็ดเงิน (PSORIASIS)?

โรคสะเก็ดเงินเป็น โรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง "เรื้อรัง" เพราะสามารถคงอยู่ได้เป็นเวลานานและ "อักเสบ" เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการทำงานที่มากเกินไปของระบบภูมิคุ้มกัน โรคสะเก็ดเงินมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นกับ ผู้ที่มีความบกพร่องทางพันธุกรรมต่อภาวะนี้ (หมายถึงมีการถ่ายทอดผ่านจากรุ่นสู่รุ่น) โดยมักเริ่มในวัยผู้ใหญ่และมีแนวโน้มที่จะลุกลามในช่วงเวลาเครียด โรคสะเก็ดเงินแบ่งออกเป็นหลายชนิดย่อย (ชนิดผื่นหนา ชนิดผื่นขนาดเล็ก สะเก็ดเงินบริเวณซอกพับ ชนิดตุ่มหนอง และชนิดผื่นแดงลอกทั่วตัว) ในบทความนี้เราจะเน้นไปที่โรคสะเก็ดเงินชนิดผื่นหนา ซึ่งคิดเป็น 90% ของผู้ป่วย

สงสัยเกี่ยวกับความแตกต่างระหว่างโรคผิวหนังอักเสบ (eczema) และโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis)? คลิกที่นี่เพื่อข้ามไปยังตารางสรุปของเรา

สาเหตุของโรคสะเก็ดเงิน (PSORIASIS)

อะไรคือสาเหตุการลุกลามของโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis)?

การศึกษาเกี่ยวกับฝาแฝดพบว่าโรคสะเก็ดเงินเป็นโรคทางพันธุกรรมหรือถ่ายทอดทางยีน แต่ฝาแฝดที่เป็นโรคสะเก็ดเงินอาจประสบภาวะของโรคสะเก็ดเงินที่แตกต่างกัน เนื่องจากการลุกลามอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย

  • ความเครียด การทำงานมากเกินไป หรือการบาดเจ็บทางอารมณ์
  • เสื้อผ้าที่เสียดสีกับผิวหนัง
  • ยาสามัญบางชนิด รวมถึง เบตาบล็อกเกอร์ กลุ่มยา NSAIDs (ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค ฯลฯ) ลิเทียมและการรักษามาลาเรีย
  • การติดเชื้อ(โดยทั่วไปคือการติดเชื้อทางจมูกและลำคอ)
  • การบาดเจ็บที่ผิวหนัง เช่น ผิวไหม้หรือรอยสักอาจทำให้อาการลุกลามขึ้น ซึ่งเรียกว่าปรากฏการณ์ Koebner

อาการของโรคสะเก็ดเงิน (PSORIASIS)

โรคสะเก็ดเงินมีลักษณะอย่างไร?

ในโรคสะเก็ดเงินชนิดผื่นหนา ผิวหนังจะมีรอยแดงหยาบหนาและปกคลุมด้วยเกล็ดสีขาว ผื่นเหล่านี้มักพบในบริเวณที่มีการเสียดสี อย่าง หัวเข่า ข้อศอก หน้าท้อง และหลังช่วงล่าง นอกจากนี้ยังสามารถพบได้ที่หนังศีรษะ มือ และเท้า ผู้ป่วยโรคสะเก็ดเงินมักพบว่ามีความผิดปกติของเล็บร่วมด้วย ได้แก่ เล็บเป็นหลุมและแตก (เรียกว่า onycholysis)
หากคุณเป็นโรคสะเก็ดเงิน อ่านต่อเพื่อค้นหาตัวเลือกการรักษาของคุณ

ฉันเป็นโรคผิวหนังอักเสบ (eczema) หรือโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis)? ทั้งโรคผิวหนังอักเสบ (eczema) และโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) ก่อให้เกิดแผลสีแดงคันบนผิวหนัง แต่ก็มีสภาวะที่แตกต่างกัน ข้ามไปที่คำแนะนำของเราในการหาข้อมูลถึงอาการที่คุณเป็น

ทำไมถึงเกิดผื่นของโรคสะเก็ดเงิน
?

โรคสะเก็ดเงิน (psoriasis): ทุกอย่างเกี่ยวกับความเร็วในการผลัดเปลี่ยนเซลล์

โรคสะเก็ดเงินเกิดจากการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งได้รับการพิสูจน์โดยการปรากฏของเซลล์ภูมิคุ้มกันชนิดหนึ่งที่เรียกว่า T lymphocytes ในผิวที่เป็นโรคสะเก็ดเงิน การอักเสบที่เกิดขึ้นจะเร่งกระบวนการผลัดเซลล์และเร่งการผลิต keratinocytes (เซลล์ที่ตายแล้วบนผิวหนัง)
โดยปกติเซลล์เหล่านี้จะใช้เวลา 28 วันในการเดินทางจากชั้นเบเซิลหรือบริเวณชั้นล่างสุดของชั้นหนังกำพร้าขึ้นสู่ผิวชั้นบนสุด (corneal layer) แต่ในโรคสะเก็ดเงินจะใช้เวลาเพียง 3-4 วัน
จึงส่งผลให้เซลล์ที่ตายแล้วเริ่มสะสมที่พื้นผิวหนังทำให้เกิดสะเก็ดสีแดงขึ้น

วิธีการดูแล
โรคสะเก็ดเงิน (PSORIASIS)

ตัวเลือกต่างๆ เพื่อดูแลรักษาโรคสะเก็ดเงินมีอะไรบ้าง?

ไม่แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ดูแลผิวสำหรับโรคสะเก็ดเงินแบบใดที่เหมาะกับคุณที่สุด? อ่านต่อสำหรับคู่มือผู้เชี่ยวชาญของเรา

ครีมสำหรับโรคสะเก็ดเงิน

วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นสำหรับโรคสะเก็ดเงินคือครีมเฉพาะ แพทย์อาจสั่งจ่ายครีมสเตียรอยด์หรือครีมวิตามินดี 3 นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยมบางตัวที่คุณสามารถซื้อได้จากร้านขายยา เช่น ISO-UREA MD Baume Psoriasis ซึ่งจะช่วยขจัดเกล็ดออกไป และป้องกันไม่ให้ผื่นหนาขึ้นพร้อมให้ความชุ่มชื้นอันยาวนานเพื่อลดอาการคันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การฉายแสงอาทิตย์เทียมสำหรับโรคสะเก็ดเงิน

ในการฉายแสงอาทิตย์เทียมผิวหนังจะสัมผัสกับรังสี UVA/UVB ในปริมาณที่ได้รับการควบคุม ซึ่งจะสามารถชะลอการสร้างเซลล์ผิวและลดการสร้างผื่น แต่อย่าถือว่านี่เป็นคำแนะนำในการออกไปอาบแดด เพราะการฉายแสงอาทิตย์เทียม ปริมาณรังสี UVA/UVB จะได้รับการปรับเทียบอย่างรอบคอบโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ยารับประทานสำหรับโรคสะเก็ดเงิน

ในกรณีที่มีรูปแบบของโรคสะเก็ดเงินขั้นรุนแรง แพทย์อาจสั่งจ่ายยาทานชนิดเม็ด โดยปกติแล้วยาเหล่านี้เป็นยากดภูมิคุ้มกัน เช่น เมโธเทรกเซท เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันที่ทำงานเกินพอดีอยู่ภายใต้การควบคุม

สปาบำบัดหรือวารีบำบัดสำหรับโรคสะเก็ดเงิน

สปาบำบัดได้รับการพิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ผลดีกับโรคสะเก็ดเงิน น้ำแร่ธรรมชาติมีคุณสมบัติในการปลอบประโลมผิวและทำความสะอาดซึ่งช่วยลดจำนวนและขนาดของผื่นโรคสะเก็ดเงิน

คุณสามารถซื้อ La Roche-Posay Thermal Spring Water ได้ที่ร้านขายยาเพื่อให้ละอองสเปรย์น้ำแร่ปลอบประโลมผิวให้รู้สึกสบาย

ชีวบำบัดสำหรับโรคสะเก็ดเงิน

โรคสะเก็ดเงินในกรณีที่รุนแรงมากจะได้รับการบำบัดที่เรียกว่า "ยากลุ่มชีวภาพ" ซึ่งมีผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอยู่ในรูปแบบยาฉีด โดยจะ "เข้าไปจัดการทำลาย" การอักเสบด้วยการผูกติดกับสารก่อการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับโรคสะเก็ดเงิน

โรคผิวหนังอักเสบ (eczema) VS โรคสะเก็ดเงิน (psoriasis)

ความแตกต่างระหว่างโรคผิวหนังอักเสบ (eczema) และโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) คืออะไร?

ทั้งโรคผิวหนังอักเสบ (eczema) และโรคสะเก็ดเงิน (psoriasis) ก่อให้เกิดผื่นแดงคัน แต่ก็มีสภาวะที่แตกต่างกัน ดูตารางด้านล่างสำหรับคำแนะนำเกี่ยวกับความคล้ายคลึงและความแตกต่าง

 

โรคผิวหนังอักเสบ (eczema) โรคสะเก็ดเงิน (psoriasis)
ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทารกและเด็กเล็ก 50% ของกรณีนั้นสามารถแก้ไขได้ภายในอายุ 5 ขวบ แต่สามารถเป็นต่อเนื่องไปถึงในช่วงวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ได้ โดยปกติจะเริ่มเป็นระหว่างอายุ 15 ถึง 35 ปี พบได้น้อยในทารกและเด็กเล็ก
คุณจะรู้สึก คันอย่างรุนแรง คันเล็กน้อยและจะเจ็บหรือแสบร้อน
ลักษณะรอยแผล รอยแดงที่ลอกมีเลือดซึมหรือตกสะเก็ด อาจมีรอยข่วนและมีเลือดออกให้เห็น แผ่นผื่นสีแดงนูนขึ้นพร้อมกับเกล็ดสีเงิน ผิวหนังจะหนาและอักเสบมากกว่าในโรคผิวหนังอักเสบ (eczema)
บริเวณของรอยแผล ในทารก: อาจได้รับผลกระทบที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย แต่ส่วนมากจะอยู่บนใบหน้าและหนังศีรษะ ในเด็กโต: มักจะส่งผลกระทบต่อรอยพับของคอและผิวหนัง (ด้านในของข้อศอก ด้านหลังหัวเข่า ฯลฯ) ข้อศอก หัวเข่า หนังศีรษะ และใบหน้า รวมถึงหลังช่วงล่าง ฝ่ามือ และฝ่าเท้า โรคสะเก็ดเงินยังสามารถทำให้เล็บเป็นหลุมและแตกได้ซึ่งไม่เกิดในโรคผิวหนังอักเสบ (eczema)
สิ่งกระตุ้น อะไรก็ตามที่ทำให้ผิวแห้ง เช่น สบู่ที่มีฤทธิ์รุนแรงอาจกระตุ้นการลุกลามของผิวหนังอักเสบ นอกจากนี้ ก็ยังมีสิ่งระคายเคืองอื่นๆ อาทิ น้ำยาซักผ้า หรือสารก่อภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่นบ้าน และอาหารบางชนิด ท้ายที่สุดนี้ ผิวหนังอักเสบจะลุกลามมากขึ้นได้เนื่องจากความเครียด อากาศร้อนอบอ้าว หรือปล่อยให้เหงื่อออกแล้วไม่อาบน้ำหลังเล่นกีฬา เช่นเดียวกับโรคผิวหนังอักเสบ โรคสะเก็ดเงินก็อาจเกิดขึ้นได้จากความเครียด และยังสามารถเป็นได้อันเนื่องมาจากการติดเชื้อในลำคอหรือการบาดเจ็บที่ผิวหนัง (รอยขีดข่วน บาดแผล รอยสัก) ยาบางชนิดก็สามารถกระตุ้นความรุนแรงของโรคสะเก็ดเงินได้ เช่น เบตาบล็อกเกอร์ กลุ่มยา NSAIDs (ไอบูโพรเฟน) ลิเทียมหรือยาต้านมาลาเรีย
ทรีตเมนต์การรักษา การลุกลามของโรคผิวหนังอักเสบมักได้รับการรักษาด้วยครีมคอร์ติโคสเตียรอยด์ (corticosteroids) แล้วตามด้วยการบำรุงที่ทำให้ผิวนุ่มและชุ่มชื้น ในกรณีที่มีความรุนแรงมากๆ แพทย์อาจสั่งยาทานให้ เช่น เมโธเทรกเซท หรือ "ยากลุ่มชีวภาพ" (การฉีดแอนติบอดีเข้าเส้นเลือด) เช่น dupilumab กรณีของโรคสะเก็ดเงินที่ไม่รุนแรงและเฉพาะที่นั้นสามารถควบคุมได้ด้วยคอร์ติโคสเตียรอยด์ (corticosteroids) และบำรุงผิวให้นุ่มชุ่มชื้น ภาวะนี้จะได้รับประโยชน์จากการบำรุงผิวให้เนียนนุ่มจากปฏิบัติการลอกเคราติน (การลอกผิว) ในกรณีที่รุนแรงกว่าจะได้รับการรักษาด้วยยากดภูมิคุ้มกันแบบทาน เช่น เมโธเทรกเซท การฉายแสงอาทิตย์เทียม หรือ "ยาฉีดกลุ่มชีวภาพ" ในกรณีที่รุนแรงที่สุด

โรคสะเก็ดเงินติดต่อทางไหน

โรคสะเก็ดเงินไม่ใช่โรคติดต่อ แต่เป็นเรื่องที่เกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรมและสภาพแวดล้อม ดังนี้

  • พันธุกรรม
  • หากมีคนในครอบครัวที่เคยเป็นสะเก็ดเงินมีโอกาสที่จะมีความเสี่ยงมากขึ้น

  • สภาพแวดล้อม
  • สภาพแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน เช่น อากาศ มลภาวะ และแมลง

  • การติดเชื้อในร่างกาย
  • การติดเชื้อกลุ่มไรโนไวรัส (Rhinoviruses) เอชไอวี (HIV) เอชพีวี (HPV) ไวรัสตับอักเสบซี (HCV)

  • การพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • จะทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานลดลง และส่งผลให้เกิดโรคดังกล่าวได้ในที่สุด

  • การได้รับบาดเจ็บบริเวณผิวหนัง
  • การได้รับบาดเจ็บที่ผิวหนัง หรือผิวหนังเกิดอักเสบจากการผ่าตัด ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงได้เช่นกัน


คลิกที่นี่ เพื่อศึกษาเกี่ยวกับโรคผิวหนังอักเสบในเชิงลึกจากสาเหตุไปจนถึงแนวทางแก้ไข

จริง
หรือไม่

True-or-false-visual-2

ในการจัดการกับผิวแห้งกร้าน สิ่งสำคัญคือ
ต้องคอยดูแลให้ผิวชุ่มฉ่ำ

จริง TRUE-ANSWER

ผิวหนังอักเสบมีสาเหตุมาจากความไม่สมบูรณ์ของผิวชั้นปกป้องของลิพิดตามธรรมชาติ (คือกำแพงป้องกันผิว) นี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคอยดูแลให้ผิวที่มีแนวโน้มเป็นผิวหนังอักเสบชุ่มฉ่ำอยู่เสมอ โดยใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์แบบเฉพาะอยู่เป็นประจำและอย่างต่อเนื่อง ด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เหมาะสมอย่าง Lipikar Baume AP+ หรือ Lipikar Fluide
เรียนรู้เพิ่มเติม
True-or-false-visual-3

การเกาผิวหนังอักเสบ
ยับยั้งอาการคันได้

ไม่จริง WRONG-ANSWER

การเกาจะยิ่งกระตุ้นวงจรของภาวะภูมิแพ้ เล็บมือจะทำลายผิวที่แห้งแตกอยู่แล้ว โดยทำให้สารที่ก่อให้เกิดการอับเสบและระคายเคืองแทรกซึมเข้ามาในผิวได้มากยิ่งขึ้นจนทำให้อยากเกามากขึ้นและสร้างความเสียหายให้ผิวหนักกว่าเดิม LIPIKAR Baume AP+ จะปลอบประโลมลิพิดชั้นนอกของผิว ช่วยเว้นระยะของการลุกลามและลดอาการคันในเวลานอนได้ครึ่งหนึ่ง
เรียนรู้เพิ่มเติม
True-or-false-visual-1

การทำให้ผิวแห้งด้วย
เครื่องเป่าผมสามารถช่วยบรรเทาโรคผิวหนังได้

ไม่จริง! WRONG-ANSWER

การทำให้ผิวแห้งด้วยไดร์เป่าผมนั้นเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะมันอาจเป็นการกระตุ้นโรคผิวหนังอักเสบจนทำให้มีอาการลุกลามมากขึ้นโดย "การจู่โจม" ผิวและทำลายชั้นลิพิดฟิล์มที่คอยปกป้องผิว ทำให้อาการแห้งกร้านจากสภาวะผิวหนังอักเสบยิ่งรุนแรงขึ้นกว่าเดิม แย่ไปกว่านั้นคือ อาจทำให้ผิวที่บอบบางของคุณไหม้ได้
เรียนรู้เพิ่มเติม
True-or-false-visual-1

โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
สามารถติดต่อได้ด้วยการสัมผัส

ไม่จริง! WRONG-ANSWER

โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังหรือผิวหนังอักเสบคือโรคทางพันธุกรรมและไม่มีทางที่จะติดต่อได้ด้วยการสัมผัส การรักษาอาการผื่นภูมิแพ้ผิวหนังต้องใช้สารที่ใช้แทนสบู่ สารที่ทำให้นุ่มและชุ่มชื้น และยาในกลุ่มคอร์ติโค สเตียรอยด์ (corticosteroids) ที่ใช้ภายนอก
เรียนรู้เพิ่มเติม
did you know

รู้หรือไม่?

DidYouKnow_Desktop_1

LIPIKAR STICK AP+ รังสรรค์ขึ้นในรูปแบบแท่งที่ใช้งานง่ายเพื่อลดอาการคันที่ต้องเกาทันที พร้อมทำลายวงจรปัญหาของการเกิดอาการคันของผิวที่มีแนวโน้มจะเกิดผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

เรายังมี
ผลิตภัณฑ์อีกมากมาย

ISO-UREA เป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำนมบำรุงผิวสูตรพิเศษเพื่อต่อสู้กับความแห้งกร้านและผิวที่เป็นขุยให้แลดูเรียบเนียนขึ้น

ความมุ่งมั่น
ด้านความปลอดภัยของเรา

มาตรฐานด้านความปลอดภัยที่นอกเหนือไปจากระเบียบข้อบังคับว่าด้วยเครื่องสำอางสากล

laroche posay safety commitment product allergy tested model close up

ผลิตภัณฑ์ 100%
ผ่านการทดสอบอาการแพ้

See More
ข้อกำหนดเบื้องต้นอันดับแรก = ไม่มีอาการแพ้
หากเราตรวจพบกรณีที่มีอาการแพ้เพียงกรณีเดียว เราก็จะกลับไปที่ห้องปฏิบัติการและเริ่มคิดค้นสูตรใหม่
laroche posay safety commitment essential active dose product head

แค่ส่วนประกอบที่สำคัญ
ในปริมาณของการออกฤทธิ์ที่เหมาะสม

See More
ผลิตภัณฑ์ของเราประกอบด้วยส่วนผสมที่จำเป็นเท่านั้น และมีปริมาณของสารออกฤทธิ์ที่เหมาะสม โดยได้รับการพัฒนาจากความร่วมมือของผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและนักพิษวิทยา
อบสนองความต้องการของ ผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะ

ทดสอบแล้ว
บนผิวที่บอบบางมาก

See More
ผลิตภัณฑ์ของเราได้รับการพิสูจน์และยืนยันแล้วว่าอ่อนโยนต่อผิวที่บอบบางมาก: ไวต่ออาการแพ้, ผิวแพ้, มีแนวโน้มเป็นสิวง่าย, ผิวหนังอักเสบ หรืออ่อนแอจากการรักษาโรคมะเร็ง
laroche posay safety commitment formula protection product head

การป้องกันสูตร
เมื่อเวลาผ่านไป

See More
เราคัดสรรบรรจุภัณฑ์ที่ให้การป้องกันที่ดีที่สุดซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้สารกันเสียตามความจำเป็นเท่านั้น เพื่อรับประกันได้ถึงความคงสภาพของสูตรและประสิทธิภาพให้คงเดิมตลอดเวลา

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ
อะไรคือผิวหนังอักเสบ