โบกมือลา ปัญหา “สิวอักเสบ” พร้อมรู้วิธีการรักษาฉบับเห็นผล
เคยมั้ย? ที่ไม่อยากออกจากบ้านเพราะมีสิวเม็ดใหญ่ขึ้นเด่นอยู่บนใบหน้า เคยมั้ย? ที่เอาแต่นั่งส่องกระจกเพราะคอยเช็กว่าเมื่อไหร่สิวจะยุบลง และเคยมั้ย? ที่หมดความมั่นใจไม่อยากจะมองหน้าใครไปซะเฉย ๆ ใครที่เคยเป็นสิว ไม่ว่าจะเป็นสิวผด สิวอุดตัน หรือสิวอักเสบ คงจะพอเข้าใจความรู้สึกเหล่านี้ แต่จะดีกว่ามั้ยถ้าเรารู้สาเหตุและการป้องกันการเกิดสิวอักเสบ รวมไปถึงวิธีรักษาสิว ทั้งการรักษาสิวอุดตัน รักษาสิวผดให้หายขาด เราจะได้โบกมือลา ปัญหา “สิวอักเสบ” และไม่ต้องมานั่งกังวลอีกต่อไป
สิวอักเสบคืออะไร รู้ได้อย่างไรว่าเราเป็นสิวอักเสบ
สิวอักเสบ คือ สิวที่พัฒนาความรุนแรงมาจากสิวผดและสิวอุดตัน อาการอักเสบ (ปวด บวม แดง แสบ ร้อน) ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือเป็นผลของการอักเสบที่เกิดจากการเสียสมดุลของแบคทีเรียบนผิว เมื่อไหร่ที่เราสัมผัสจุดบนผิวหน้าที่นูนขึ้นมาแล้วรู้สึกถึงความเจ็บปวด ให้รู้ไว้เลยว่าสิวอักเสบได้บุกมาถึงใบหน้าของเราเป็นที่เรียบร้อย สิวอักเสบโดยพื้นฐานแล้วจะมีลักษณะบวมนูนใหญ่และมีฐานสีแดง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่- สิวตุ่มแดง
มีลักษณะเป็นตุ่มแดงขนาดเล็ก และรู้สึกเจ็บหากไปสัมผัส - สิวหัวหนอง
มีขนาดใหญ่กว่าสิวตุ่มแดง ฐานบวมแดง และมีหัวหนองขาว - สิวหัวช้าง
มีขนาดใหญ่และแข็ง ฝังลงไปลึกมากใต้ผิวหนัง - สิวซีสต์
มีความคล้ายกับสิวหัวช้าง แต่จะมีหนองขนาดใหญ่ฝังอยู่ลึกใต้ผิวหนังและสร้างความเจ็บปวด
สาเหตุของการเกิดสิวอักเสบ
สิวอักเสบนั้นเกิดได้จากหลายปัจจัย ได้แก่ ปัจจัยที่เราควบคุมไม่ได้อย่างการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ซึ่งจะเกิดในเพศหญิงช่วงมีประจำเดือน หรือระยะตั้งครรภ์ และมักพบในเพศชายเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น หรือการส่งต่อทางกรรมพันธุ์ที่ถ้าใครมีพ่อแม่ที่เป็นสิวก็อาจถูกส่งต่อมายังผู้สืบสายเลือดได้ และปัจจัยภายนอกที่เราควบคุมได้อย่างอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งเราควรคอยสังเกตว่าอาหารชนิดไหนส่งผลให้เกิดปัญหาสิวขึ้นและควรหลีกเลี่ยง หรืออย่างรวมไปถึงการใช้เครื่องสำอางหรือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า ที่ต้องคอยหมั่นเช็กเช่นกันว่าทำให้เกิดการแพ้หรือไม่และต้องหยุดใช้เมื่อทำให้เกิดการอักเสบของสิวการป้องกันการเกิดสิวอักเสบ
งดการบีบ/แคะ/แกะ/กด สิว
การบีบ แคะ แกะ กดหรือสัมผัสบริเวณที่เป็นสิวล้วนแต่เป็นการเสี่ยงให้สิวยิ่งมีความอักเสบและติดเชื้อแบคทีเรียจากมือที่สกปรกของเรามากยิ่งขึ้น เพิ่มความรุนแรงของปัญหาสิวและยังมีโอกาสทิ้งรอยแผลเป็นและรอยสิวเอาไว้ให้เราช้ำใจต่ออีกด้วยหลีกเลี่ยงแสงแดด
แสงแดดสามารถกระตุ้นให้ผิวของเราผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ซึ่งน้ำมันเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิว และแสงแดดยังสามารถทำให้รอยที่เกิดจากสิวเข้มมากขึ้นด้วย ดังนั้นทุกปัญหาผิว รวมถึงผู้ที่มีปัญหาสิวจึงควรหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด และเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิว ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน และสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว ผิวมัน อาจเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่สามารถควบคุมความมันได้ เป็นคุณสมบัติเพิ่มเติมดูแลความสะอาดผิวหน้า
หากมีการแต่งหน้า ต้องเพิ่มขั้นตอนการเช็ดเครื่องสำอางก่อนที่จะเข้าสู่การล้าง ทำความสะอาดผิวหน้า หลังครบขั้นตอนทำความสะอาดต้องแน่ใจว่าไม่มีสิ่งตกค้างที่จะไปอุดตันรูขุมขน และหากไม่ได้แต่งหน้า ก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะกับปัญหาและสภาพผิว โดยการล้างหน้าเพียงวันละ 1-2 ครั้งเพียงพอแล้วทานอาหารที่มีประโยชน์
หลีกเลี่ยงอาหารมัน อาหารหวานจัดเพราะสามารถกระตุ้นการเกิดสิว หรืออาหารที่พบว่าอาจส่งผลให้เกิดปัญหาสิว (ซึ่งขึ้นกับผิวแต่ละบุคคล) และหันมารับประทานผักและผลไม้ที่มีเส้นใยอาหาร วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งล้วนแต่มีประโยชน์กับผิวทั้งสิ้นออกกำลังกาย
การออกกำลังกายเป็นการกระตุ้นการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้เป็นปกติ และยังส่งผลให้ร่างกายของเรามีสุขภาพแข็งแรงด้วยพักผ่อนให้เพียงพอ
ควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้วันละอย่างน้อย 6 - 8 ชั่วโมง และควรนอนก่อน 22.00 น. ตั้งแต่ช่วงห้าทุ่มถึงเที่ยงคืน เพื่อให้ร่างกายเรานอนหลับสนิททันช่วงเที่ยงคืนถึงตีหนึ่ง ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่มีการหลั่ง Growth Hormone เพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวนั่นเองรวมวิธีดูแลผิวที่มีปัญหาสิว**สิวเสี้ยน สิวอุดตัน
- 1. ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยนต่อผิวหน้า
- 2. ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Salicylic Acid
- 3. ใช้ผลิตภัณฑ์ประเภท Non-Comedogenic