รอยสิว เป็นปัญหาผิวใช่หรือไม่

Article Read Duration 5 min read

        หลายคนคิดว่า “รอยสิว” ไม่ใช่ปัญหาผิวที่รุนแรง หรือเป็นปัญหาผิวที่ไม่ต้องรีบแก้ไข จึงมักจะละเลยไม่ใส่ใจ แต่ก็มีอีกหลายคนที่ประสบกับปัญหารอยสิว ไม่ว่าจะเป็นรอยแดง รอยดำ และ/หรือรอยหลุมสิวที่ส่งผลต่อความสวยงามของสุขภาพผิว จนทำให้สูญเสียความมั่นใจในการใช้ชีวิต เช่น ไม่กล้าสบตา ไม่กล้าพูดคุย ไม่กล้าโชว์ผิวหน้า


        บางคนอาจแก้ไขด้วยการใช้เส้นผม ทำทรงผมเพื่อมาปกปิดใบหน้า หรือการสวมหน้ากาก (Mask) (ในสถานการณ์โควิด) ตลอดเวลา หรือการแต่งหน้าจัดเพื่อปกปิดร่องรอยจากสิว ซึ่งการกระทำเหล่านี้นอกจากจะเป็นแก้ปัญหาที่ปลายเหตุแล้ว ยังส่งผลกระตุ้นให้เกิดปัญหาสิวเพิ่มมากขึ้น ก็จะส่งผลให้รอยสิวไม่หาย หรือรุนแรงมากขึ้นไปอีก

รอยสิวเกิดจากอะไร

        เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจกับปัญหารอยสิว รอยสิวเกิดจากร่องรอยความเสียหายของผิวที่เกิดจากปัญหาสิว สิวทั้ง 2 ประเภท (สิวอุดตันและสิวอักเสบ) ล้วนส่งผลให้เกิดรอยสิวได้ทั้งสิ้น จากวงจรของปัญหาสิว: สิวอุดตัน สิวอักเสบ รอยแดง รอยดำ หากเราดูแลอย่างถูกต้อง ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม แทบจะไม่พบปัญหารอยสิวตามมา แต่หากเราดูแลไม่ดี เช่นการแคะ แกะ บีบ การสครับผิว หรือการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะสม ก็จะส่งผลให้ผิวมีแนวโน้มเกิดร่องรอยทิ้งไว้จากปัญหาสิว


วงจรการเกิดรอยสิว

        จากสิวอุดตัน (ลักษณะผิวที่นูนไม่เรียบ แต่ไม่มีอาการเจ็บหากสัมผัสโดน) เมื่อผิวถูกรบกวน เช่น การกดสิว แคะ แกะ บีบ เค้น หรือการสครับผิว สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้เกิดการอักเสบของสิวบริเวณดังกล่าว เมื่อเกิดการอักเสบ ร่างกายของเราจะเริ่มกระบวนการซ่อมแซมผิวด้วยการขยายหลอดเลือดเพื่อลำเลียงเลือดที่มีเซลล์เม็ดเลือดขาวไปซ่อมแซมผิวหนังบริเวณที่เกิดการอักเสบ จึงทำให้ผิวบริเวณที่เกิดการอักเสบเป็นรอยแดง ซึ่งรอยแดงนี้จะรุนแรงหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวหลังจากนั้น

        หากการอักเสบของสิวเกิดขึ้นจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ก็จะมีปัจจัยเรื่องความรุนแรงของการติดเชื้อเพิ่มเข้าหากเป็นการอักเสบขนาดใหญ่ ที่ส่งผลให้เกิดสิวอักเสบขนาดใหญ่ (ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 0.5 เซนติเมตร) หรือที่หลายคนรู้จักในนามของ “สิวหัวช้าง” ก็จะส่งผลให้เกิดรอยแดง (Red marks = Erythema) ด้วยกลไกการอักเสบของผิว

        ระยะเวลาที่จะทำให้ผิวกลับมาเป็นสีผิวปกติอาจเป็นสัปดาห์ หรือเป็นเดือน ขึ้นกับการดูแลหลังเกิดการอักเสบ และช่วงวัยที่พบว่าเมื่ออายุมากขึ้นมักจะใช้เวลาและการซ่อมแซมผิวที่มากขึ้น กล่าวคือรอยแดงจะจางลงช้ากว่าในช่วงวัยรุ่น


ปัจจัยที่ทำให้เกิดรอยดำจากสิว

        ปัญหารอยสิวสำหรับหลายคนไม่ได้จบที่รอยแดง โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวเข้มขึ้น หากดูแลปัญหาสิวไม่ดีมักพบรอยที่เกิดจากสิวจากรอยแดงเปลี่ยนเป็นรอยดำ (Brown marks = Pigmentation) ที่เกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ที่กระตุ้นให้เซลล์เมลาโนไซต์ (Melanocyte) ที่ทำหน้าที่ผลิตเม็ดสี ให้ผลิตเม็ดสีเพิ่มมากขึ้น ได้แก่ แสงแดด มลภาวะ เป็นต้น อีกทั้งผลจากระบวนการอักเสบยังส่งผลต่อการเกิดรอยดำจากสิวทั้งทางตรงและทางอ้อม

  • ทางตรง : การอักเสบที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีการหลั่งสารก่อการอักเสบ ซึ่งสารก่อการอักเสบเหล่านี้จะไปกระตุ้นเซลล์เมลาโนไซต์ (Melanocyte) ให้ผลิตเม็ดสีเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกิดรอยดำ ณ บริเวณที่เป็นสิวอักเสบ
  • ทางอ้อม : การอักเสบที่เกิดขึ้นส่งทำให้เกิดอนุมูลอิสระที่เรียกว่า Reactive Oxygen Species (ROS) ซึ่งส่งผลทางอ้อมให้มีการสร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มมากขึ้น ตอกย้ำปัญหารอยดำที่เกิดจากสิวเพิ่มมากขึ้น

        รอยดำที่เกิดจากสิวมักพบในผู้ที่มีผิวเข้ม และระยะเวลาที่ทำให้สีผิวจางลงกลับมาเป็นปกติจะใช้เวลานานกว่ารอยแดง อาจเป็นเดือน เป็นปี หรืออาจเป็นรอยดำถาวรก็ได้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย


ปัจจัยที่ทำให้เกิดรรอยหลุมสิว

        รอยหลุมสิว (Atropic scar) มักเกิดจากสิวอักเสบขนาดใหญ่ที่กระบวนการซ่อมแซมผิวทำงานได้ไม่ดี เช่น จากการแคะ แกะ บีบสิว ที่ทำให้กระบวนการสร้างคอลลาเจนละเนื้อเยื่อเพื่อซ่อมแซมผิวบริเวณดังกล่าวทำงานได้ไม่สมบูรณ์เกิดรอยลึกลงไปในผิว แล้วเกิดการสร้างพังผืดที่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องพึงพาการทำหัตถการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

วิธีการลดปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดรอยสิว

        การลดปัจจัยที่ส่งผลทำให้เกิดรอยสิว ทั้งสามประเภทอันได้แก่ รอยแดง รอยดำ และรอยหลุมสิว เพื่อดูแลแก้ปัญหารอยสิว ให้เกิดโอกาสของการเกิดรอยสิวลดน้อยลงให้มากที่สุด หรือแก้ไขให้ได้เร็วที่สุด และดีที่สุด


งดการรบกวนผิวบริเวณเป็นสิว

        งดการรบกวนผิวบริเวณเป็นสิว ทั้งจากการสัมผัส แคะ แกะ เกา บีบ เค้น หรือการสครับผิว เพราะล้วนเป็นปัจจัยกระตุ้นให้สิวรุนแรงมากขึ้น ทำให้แก้ไขรอยสิวได้ยากมากขึ้น


วิธีการดูแลปัญหาสิวที่ถูกต้อง

        การดูแลปัญหาสิวที่ถูกต้อง พึงตระหนักไว้เสมอว่าสิวคือจุดเริ่มต้นของรอยสิว หากลดปัญหาสิวลงได้ รอยสิวก็ย่อมลดน้อยลงไปด้วย


หลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว

       การหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้เกิดสิว คือการแก้ปัญหาสิวที่สาเหตุ ผู้ที่มีปัญหาต้องสังเกตปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาสิว เช่น ความเครียด การรับประทานอาหารบางชนิด หรือมลภาวะเป็นต้น


เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับปัญหาสิว

        การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับปัญหาสิว เช่น มีสารช่วยลดสาเหตุของการเกิดสิว ได้แก่ ลดการผลิตน้ำมัน เสริมการผลัดเซลล์ผิว ลดการอักเสบ ลดเชื้อแบคทีเรียตัวร้าย หรือช่วยปรับสมดุลแบคทีเรียบนผิว


การดูแลปัญหาสิวอย่างครบขั้นตอน

        การดูแลปัญหาสิวอย่างครบขั้นตอน ตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาด เช่นหากแต่งหน้าจะต้องเริ่มต้นที่ผลิตภัณฑ์เช็ดเครื่องสำอางก่อนที่จะล้างทำความสะอาดผิวหน้า ต่อด้วยขั้นตอนการบำรุงด้วยเซรั่มหรือมอยซ์เจอไรเซอร์ และการปกป้องด้วยผลิตภัณฑ์กันแดด


  1. ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดเป็นประจำ และใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เพราะแสงแดดเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้รอยดำสิวเข้มขึ้น
  2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ลดรอยดำ เช่นผลิตภัณฑ์ที่มีสารสำคัญที่ทำงานในกลไกการผลิตเม็ดสี

  3.     - สารลดการอักเสบ ที่จะช่วยลดรอยแดงจากการอักเสบ แล้วยังช่วยลดปัจจัยกระตุ้นการผลิตเม็ดสี
        - สารที่ช่วยลดการผลิตเม็ดสี
        - สารช่วยเสริมการผลัดเซลล์ผิว เพื่อเผยผิวกระจ่างใส

  4. วิธีอื่น ๆ ที่ช่วยลดรอยจากสิว

  5.     - การทำหัตถการ เช่นการลอกผิว การทำเลเซอร์
        - ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อผิวสวยสุขภาพดี ได้แก่ การพักผ่อนอย่างเพียงพอ การออกกำลังกาย รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย การดื่มน้ำให้เพียงพอ รวมไปถึงการปรับจิตใจที่ผ่องใส ไม่เครียด

        “รอยสิว” เป็นปัญหาที่เกิดจากสิว หากมีการดูแลปัญหาสิวที่ถูกต้อง ก็อาจจะไม่ต้องเผชิญกับปัญหารอยสิว แต่หากควบคุมปัญหาสิวไม่ให้ไปต่อไม่ได้ การลดปัจจัยการเกิดรอยสิวก็สำคัญและจำเป็นโดยเฉพาะห้ามแคะ แกะ เกา รบกวนตั้งแต่เป็นปัญหาสิว ร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์แก้ปัญหาสิวและรอยสิวที่ถูกต้อง รวมถึงผลิตภัณฑ์กันแดด หนึ่งสิ่งที่สำคัญในการดูแลแก้ปัญหาและปกป้องได้ทั้งสิวและรอยสิว การป้องกันทำได้ง่ายกว่าการแก้ไขเสมอ แม้กระทั่งปัญหาสิวและรอยสิว

References:

  1. Ferreira, M. (2021, Dec 13). How to Best Treat Acne Scars. Healthline. https://www.healthline.com/health/acne-scars#raised-scars
  2. Brennan, D. (2021, Apr 27). What To Know About Post-Inflammatory Erythema. Healthline. https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/acne/what-to-know-about-post-inflammatory-erythema
  3. Nicole, W. (2021, Nov 02). What is Post Inflammatory Hyperpigmentation?. WebMD. https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/what-is-post-inflammatory-hyperpigmentation