สิวอุดตัน ควรกดหรือไม่ พร้อมรู้วิธีการรักษาที่ถูกต้อง

Article Read Duration 7 min read

“กดสิว” ควรหรือไม่ควร?? อาจเป็นคำถามที่คาใจสำหรับใครหลายคน สำหรับใครที่มีปัญหาสิวอุดตัน ควรกดหรือไม่ควรนั้น เราอยากให้ทุกคนได้รู้จักกับประเภทของสิวอุดตันกันก่อน พร้อมรู้วิธีการรักษาสิวอย่างถูกต้อง หากมีความจำเป็นในการกดสิวจะมีข้อดีและข้อเสียอย่างไร ตามมาศึกษากันได้จากบทความนี้

ประเภทของสิวอุดตัน

สิวอุดตัน (Comedonal acne) หรือสิวไม่อักเสบ (non-inflammatory acne) เกิดจากการอุดตันของขุมขน อาจพบได้ 3 ลักษณะ คือ
  1. สิวอุดตันขนาดเล็ก (Microcomedones) การอุดตันในรูขุมขนที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า นั่นหมายถึงเมื่อสัมผัสบนผิวหน้าอาจไม่พบอาการใด ๆ แต่ไม่นานการอุดตันนี้จะค่อย ๆ นูน ปูดขึ้นมาทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน ไม่มีอาการเจ็บเมื่อสัมผัสโดน

  2. สิวหัวเปิด (Open comedones) หรือสิวหัวดํา (Blackhead comedones) ลักษณะเป็นตุ่มมีจุดดํา อยู่ตรงกลาง ท่อไขมันขยายตัวและมีเคราติน เมลานิน และไขมันที่ถูกออกซิไดซ์อุดแน่นอยู่จึงเห็นเป็นสีดํา คล้ายสิวเสี้ยน

  3. สิวหัวปิด (Closed comedones) หรือสิวหัวขาว (Whitehead comedones) ลักษณะเป็นตุ่มนูนสีเดียวกันกับสีผิวหรืออาจเป็นสีขาวขนาดเล็ก ซึ่งจะเห็นชัดขึ้นเมื่อดึงผิวหนังให้ตึงหรือโดยการคลํา หรือสัมผัสผิว สิวอุดตันประเภทนี้เกิดจากการอุดตันภายในรูขุมขน หากปล่อยไว้...ไม่รักษา หรือดูแลไม่ดี จะพบว่าแบคทีเรีย ซีบัม (Sebum) และเคราติน (Keratin) รวมตัวกันจะเกิดเป็นถุงซีสต์ (Cystic space) ซึ่งจะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และดันผนังรูขุมขนออกมา เกิดอาการอักเสบ (ปวด บวม แดง แสบ ร้อน) กลายเป็นสิวอักเสบในที่สุด

การรักษาสิวอุดตันด้วยการกดสิว

        สิวอุดตันประเภทสิวหัวขาวหรือสิวหัวปิดนั้นสามารถกดหัวสิวออกมาได้ เป็นการรักษาวิธีหนึ่งที่นิยมใช้กันเพื่อจัดการกับการอุดตันที่พบ และยังเป็นการป้องกันสิวหัวขาวพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบได้อีกด้วย แต่การกดสิวนั้นควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น การรักษาสิวอุดตันโดยแพทย์ผิวหนัง หากแพทย์พิจารณาที่จะรักษาด้วยการกดสิว แพทย์ก็จะต้องพิจารณาลักษณะสิวของคนไข้ก่อนว่าสามารถกดได้หรือไม่ โดยสิวที่สามารถกดได้เลยคือ สิวอุดตันประเภทหัวเปิดที่ไม่อักเสบ แต่หากเป็นสิวหัวปิด แพทย์จะต้องเจาะเปิดรูที่หัวสิวก่อนที่จะทำการกดสิว โดยขั้นตอนการกดสิวจะเริ่มจากการทำความสะอาดผิวบริเวณนั้นด้วยแอลกอฮอล์ แล้วใช้เข็มฉีดยาเจาะบริเวณหัวสิว (กรณีเป็นสิวหัวปิด) แล้วใช้อุปกรณ์กดเอาสิว หรือสิ่งอุดตันภายในผิวออกมา หลังการกดสิวก็จะมีการซับเลือด หรืออาจทายาฆ่าเชื้อร่วมด้วย และอาจมีการประคบเย็น เพื่อบรรเทาอาการบวม เจ็บ และยังช่วยให้เลือดหยุดไหลได้เร็วขึ้น

ข้อดี ข้อเสีย ของการกดสิว

  • ข้อดี ของการกดสิวคือ ช่วยลดโอกาสการพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบ

  • ข้อเสีย คือถ้ากดไม่ถูกวิธี หรือไปกดสิวกับสิวที่ไม่ควรกด หรือกดเอาสิ่งอุดตันภายในออกไม่หมด ก็จะเพิ่มโอกาสการอักเสบ เกิดปัญหารอยดำ รอยแดงหลังการเป็นสิวได้ง่ายขึ้น และต้องใช้ระยะเวลานานขึ้นกว่าปกติ

        การกดสิว ถือว่าเป็นหัตถการเสริมการรักษาสิววิธีหนึ่ง แค่ต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ห้ามกดเอง เพราะหากผู้กดไม่เข้าใจประเภทสิวก็จะไม่รู้ว่าสิวนั้นกดได้หรือไม่ และหากไม่รู้วิธีการกดสิวที่ถูกต้อง ออกแรงไม่เหมาะสม ก็จะยิ่งทำให้ปัญหาสิวลุกลามรุนแรงมากยิ่งขึ้น ใช้เวลาในการรักษาเพิ่มมากขึ้น ค่าใช้จ่ายก็อาจเพิ่มสูงขึ้น สุดท้ายอาจกลายเป็นรอยหลุมสิวที่ยากต่อการแก้ไข

วิธีการดูแลและลดการเกิดสิวอุดตัน

        แต่สิ่งที่สำคัญที่จะช่วยดูแลและลดการเกิดสิวอุดตัน คือการหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ส่งผลกระตุ้นการเกิดสิวอุดตันด้วยวิธี “การลดสิวอุดตันด้วยการป้องกันการเกิดสิวอุดตัน” การหลีกเลี่ยงปัจจัยต่าง ๆ และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อการป้องกันการเกิดปัญหาสิวได้แก่

        หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าหรือรบกวนใบหน้า เช่น การเกา แกะ บริเวณที่เป็นสิว หรือหลีกเลี่ยงไม่ให้เส้นผมมาสัมผัสกับผิวหน้า อาจทำได้โดยการรวบเก็บผมให้เรียบร้อย เพื่อลดปัจจัยที่จะไปสัมผัสโดนผิวหน้า กระตุ้นให้เกิดปัญหาสิว

        หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางอุดตันผิวหรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อาจทำให้เกิดการอุดตัน เช่นมีองค์ประกอบของน้ำมัน โดยควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสูตรที่ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic) การปกปิดสิวด้วยการใช้เมคอัพ ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง ควรแก้ปัญหาสิวอย่างแท้จริง เพื่อการแต่งหน้าบนผิวสวยสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่หนาจนเกินไป เผยผิวสวยใส สุขภาพดีที่ทุกคนปรารถนา

        หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวาน อาหารที่มีค่าดัชนีน้ำตาลสูง (High glycemic index) หรืออาหารที่เมื่อทานแล้วพบว่าเมื่อตนรับประทานแล้วกระตุ้นให้เกิดปัญหาสิว เช่น ช็อคโกแลต นม เนย น้ำอัดลม ชานมไข่มุก (ของอร่อยทั้งนั้นเลย!!)

        ทำความสะอาดและดูแลผิวหน้าอย่างถูกต้อง เพื่อลดความมัน กำจัดสิ่งสกปรก ลดเชื้อแบคทีเรีย สามารถช่วยลดโอกาสเกิดสิวอุดตัน ตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาดโดย โดยเฉพาะหลังการแต่งหน้า ต้องทำความสะอาดสิ่งสกปรก ปนเปื้อนทุกอย่างออกจากผิวอย่างหมดจด การทำความสะอาดผิวหน้าวันละ 2 ครั้ง ด้วยการทำความสะอาดที่อ่อนโยน และมีประสิทธิภาพก็เพียงพอแล้ว

        ควรใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผม เช่น แชมพู ครีมนวดผม ที่เป็นสูตรอ่อนโยน เนื่องจากเส้นผมของเรามีโอกาสสัมผัสใบหน้าของเราได้ตลอดเวลา สามารถกระตุ้นให้เกิดสิวได้ ดังนั้นควรใส่ใจในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมด้วยเช่นเดียวกัน และควรหลีกเลี่ยงน้ำมันหรือผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมใด ๆ ในช่วงที่มีปัญหาสิว (เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่จำเป็น และอ่อนโยนเท่านั้น)

        บางปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดปัญหาสิวไม่สามารควบคุมได้ เช่น กรรมพันธุ์ หรือ ฮอร์โมน แต่ก็มีอีกหลายปัจจัยที่เราสามารถกำจัดออกไปหากเป็นหารกระตุ้นให้เกิดสิว และปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นหากเป็นปัจจัยที่ช่วยลดปัญหาสิว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจึงเป็นข้อควรปฏิบัติเป็นอย่างแรกสำหรับคนอยากแก้ปัญหาสิวอย่างมีประสิทธิภาพ ร่วมกับการใช้ยารักษาสิว และผลิตภัณฑ์ดูแลปัญหาสิว การป้องกันดีกว่าการแก้ไขเสมอ...สำหรับปัญหาสิวก็เช่นกัน