ถอด mask แล้วสิวยังขึ้น ใช้ครีมรักษาสิวและครีมลดรอยสิวอย่างไร

Article Read Duration 5 min read

การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 ส่งผลกระทบทำให้ทุกคนจำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้ออยู่ตลอดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสถานการณ์เริ่มดีขึ้น เริ่มมีมาตรการผ่อนปรนให้ถอดหน้ากากอนามัยได้โดยสมัครใจ แต่ปัญหาที่พบคือ แม้ว่าจะถอด mask แล้วแต่ก็ยังพบว่าปัญหาสิวยังคงอยู่และไม่หายไปสักที ในบางรายก็อาจทิ้งรอยสิวให้ปวดใจอีกด้วย ขอแนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำโดยแพทย์ผิวหนัง โดยเลือกใช้ครีมรักษาสิวและครีมลดรอยสิว ที่ปลอดภัยสำหรับผู้มีแนวโน้มเป็นผิวแพ้ง่าย เพื่อรักษาสิวและรอยสิวอย่างเหมาะสม ให้คุณหมดกังวลเรื่องสิวและรอยสิวแม้ยามที่ถอด mask

สิวเกิดจากอะไร มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เกิดสิว

ปัจจัยภายนอก

  • สภาพอากาศ มลภาวะ ฝุ่น ควัน
  • แสงแดด รังสี UV ความร้อน
  • เครื่องสำอาง สารเคมีตกค้างบนผิว
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น ความเครียด การพักผ่อนน้อย การรับประทานอาหาร
  • การใส่แมสก์

ปัจจัยภายใน

  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
  • กรรมพันธุ์
วงจรของสิว มักเริ่มจาก ไมโครคอมิโดน หรือสิวอุดตันขนาดเล็กที่เรามองไม่เห็นด้วยตาเปล่า -> สิวอุดตัน -> สิวอักเสบ -> รอยแดง รอยดำ ที่เกิดขึ้นจากสิว ในแต่ละช่วงควรได้รับการรักษาด้วยผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันไป เช่น ในช่วงที่เป็นสิว ควรใช้ครีมรักษาสิว ควบคู่กับการดูแลผิวหน้าให้สะอาดเป็นพิเศษ และเมื่อสิวหายแล้วก็มักทิ้งรอยแดงและรอยดำเอาไว้ ในช่วงนี้เราก็ควรเลือกครีมลดรอยสิวที่เหมาะกับสภาพผิวของเรามาใช้ ขอแนะให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำโดยแพทย์ผิวหนัง หรือเลือกใช้เวชสำอาง เพื่อมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย ถึงแม้จะเป็นคนที่มีแนวโน้มผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้อย่างมั่นใจ

ประเภทและอาการของสิว

สิวแบ่งเป็น 2 ประเภท ได้แก่

1. สิวอุดตัน หรือ สิวไม่อักเสบ (RETENTINAL ACNE, COMEDONES)


มีสาเหตุจากการอุดตันของรูขุมขน ทำให้ผิวหน้ามีตุ่มนูน ไม่เรียบเนียน แต่ไม่มีอาการ บวม แดง หรือเจ็บปวด สิวอุดตันแบ่งประเภทย่อยได้ดังนี้
  • สิวหัวปิด หรือ สิวหัวขาว (Close comedones หรือ White head comedones) มีลักษณะเป็นตุ่มนูน สีเดียวกับผิวหนัง มักคุ้นเคยกันในลักษณะของ สิวผด
  • สิวหัวเปิด หรือ สิวหัวดำ (Open comedones หรือ Black head comedones) มีลักษณะเป็นตุ่มนูน มีจุดสีดำตรงกลาง มักคุ้นเคยกันในลักษณะของ สิวเสี้ยน

2. สิวอักเสบ (INFLAMMATORY ACNE)


มีสาเหตุจากการอุดตันของรูขุมขน ร่วมกับการติดเชื้อแบคทีเรีย นอกจากทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียนแล้ว จะมีอาการ บวม แดง แสบ หรือเจ็บปวดด้วย สิวอักเสบแบ่งประเภทย่อยได้ดังนี้
  • สิวตุ่มแดง (Papule) มีลักษณะเป็นตุ่มนูน สีแดง มีขนาดเล็ก
  • สิวตุ่มหนอง (Pustule) มีลักษณะเป็นตุ่มนูน มีขนาดเล็กและมักมีหนองร่วมด้วย
  • สิวอักเสบขนาดใหญ่ (Nodule หรือ Cyst) เป็นสิวที่มีขนาดใหญ่กว่า 0.5 cm สามารถพบในรูปแบบตุ่มหนองหลายตุ่มอยู่ติดกัน หรือลักษณะเป็นก้อนนูนแดง สัมผัสแล้วรู้สึกนุ่มเพราะมีหนองและเลือดอยู่ภายใน
การรักษาสิว ต้องอาศัยความรู้และความเข้าใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และการเลือกผลิตภัณฑ์ เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ครีมรักษาสิว และครีมลดรอยสิว ที่มีความปลอดภัยแม้กับผิวแพ้ง่าย

วิธีการป้องกันและรักษาสิว

เปลี่ยนหน้ากากอนามัยให้บ่อยมากขึ้น

การใส่หน้ากากอนามัยอันเดิมเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดการเติบโตและแพร่กระจายของเชื้อโรคที่อยู่บนผิวหน้าส่วนที่สวมหน้ากากอนามัย รวมทั้งเชื้อโรคที่ออกมาพร้อมลมหายใจของเรา มารวมสะสมอยู่ภายในหน้ากากอนามัย ซึ่งก่อให้เกิดอาการระคายเคือง และเกิดสิวได้


ลดระยะเวลาการใส่หน้ากากอนามัยในแต่ละครั้ง

ถึงแม้จะเปลี่ยนหน้ากากอนามัยบ่อย ๆ แต่การสวมใส่หน้ากากอนามัยเป็นระยะเวลานาน ก็ก่อให้เกิดการเสียดสี และทำให้บริเวณผิวใต้หน้ากากอนามัยรับอากาศถ่ายเทได้ไม่สะดวก ก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย


งดการใช้เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ที่ไม่อ่อนโยนต่อผิว

สารเคมี และสารสกัดบางชนิด ทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคืองและการอักเสบได้ง่าย โดยเฉพาะกับผิวที่เป็นสิวที่มีการอักเสบและระคายเคืองอยู่เดิมแล้ว ยิ่งควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ทุกประเภทที่อาจทำให้เกิดการระคายเคืองมากขึ้นได้ อาจเลือกใช้เครื่องสำอางที่ไม่ก่อให้เกิดสิว


ล้างหน้าให้สะอาด โดยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีความอ่อนโยน

การทำความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสิ่งสกปรกและแบคทีเรียเป็นสาเหตุสำคัญในการเกิดสิว ที่สำคัญควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยนและเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาสิว เช่น ผลิตภัณฑ์ EFFACLAR PEELING GEL ที่ช่วยดูแลผิวมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย และผิวบอบบางมีแนวโน้มระคายเคืองง่ายให้สะอาด ช่วยขจัดสิ่งสกปรก และขจัดความมันส่วนเกินซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิว โดยไม่ทำให้ผิวเสียสมดุล

โฟมล้างหน้าสำหรับคนเป็นสิว


ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว La Roche-Posay

La Roche-Posay ลา โรช-โพเซย์ เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอันดับ 1^ที่แพทย์ผิวหนังแนะนำทั่วโลกแนะนำ ด้วยประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ได้รับการพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและนักพิษวิทยา ผลิตภัณฑ์ทุกตัวได้รับการทดสอบว่าอ่อนโยนต่อผิวที่บอบบางมาก และประเภทของผลิตภัณฑ์ ยังครอบคลุมการใช้งานในทุกขั้นตอนของการดูแลผิวของผิวที่เป็นสิวและผิวมีแนวโน้มระคายเคืองง่าย ตั้งแต่การทำความสะอาด การบำรุงผิว ครีมลดรอยสิว จนไปถึงขั้นตอนการป้องกันแสงแดด

^จากผลสำรวจในแพทย์ผิวหนังจาก 34 ประเทศทั่วโลก โดย AplusA ระหว่างเดือนมกราคม 2021 และกรกฎาคม 2021 สื่อมากกว่า 82% ของ GDP ทั่วโลก


แนะนำ EFFACLAR DUO+ SPF30 ตัวช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวีและมลภาวะจากสิ่งแวดล้อม

แสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดสิว รวมทั้งทำให้รอยสิวชัดเจนมากขึ้น เราจึงอยากแนะนำ EFFACLAR DUO+ SPF30 ที่ช่วยป้องกันรังสียูวีและมลภาวะ นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติในการจัดการกับสิวอุดตัน และลดเลือนจุดด่างดำ รอยสิว และช่วยบำรุงให้ผิวพรรณที่ดูโทรมจากมลภาวะ

ครีมลดรอยสิว


สรุป

ปัญหาสิวที่หลงเหลืออยู่แม้จะเข้าสู่ช่วงถอดหน้ากากอนามัย สามารถดูแลได้โดยการปรับพฤติกรรม และการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับผิวที่เป็นสิวและบอบบาง ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ครีมรักษาสิว ครีมลดรอยสิว จนไปถึงขั้นตอนการป้องกันแสงแดด โดยเลือกผลิตภัณฑ์ที่แนะนำโดยแพทย์ผิวหนัง หรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นเวชสำอางเท่านั้น