ครีมกันแดด สำหรับคนเป็นฝ้า ควรช่วยมากกว่าแค่ “บล็อกแดด” แต่ต้องฟื้นปราการผิวให้แข็งแรงด้วย

Article Read Duration 7 min read


“ฝ้า” ไม่ใช่ปัญหาผิวที่จางได้ในชั่วข้ามคืน และก็ไม่ใช่แค่ผลจากการเจอแดดจัดเพียงไม่กี่ครั้ง ความจริงแล้วฝ้ามักสะสมอย่างเงียบ ๆ จากปัจจัยหลายด้าน ทั้งแสงแดดที่สัมผัสเป็นประจำ ความเครียด ฮอร์โมน และที่สำคัญคือ “ความไวของผิว” ที่ตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าคนทั่วไป ซึ่งรวมถึงรังสี UVA ที่สามารถแทรกลึกถึงชั้นผิว และกระตุ้นให้มีการเม็ดสีเป็นปกติได้แม้ในวันที่ฟ้าไม่เปิด ไม่มีแสงแดด

นั่นหมายความว่า การเลือก “ครีมกันแดด สำหรับคนเป็นฝ้า” จึงไม่ใช่แค่การเน้นแค่ตัวเลข SPF/PA ที่สูง แต่ต้องเป็นสูตรที่เข้าใจกลไกผิวที่มีแนวโน้มเกิดฝ้าได้ง่าย และสามารถฟื้นฟูเกราะปราการป้องกันผิวให้กลับมาแข็งแรงได้ในระยะยาว เพื่อไม่ให้ฝ้าเกิดซ้ำหรือฝังลึกลงไปอีก

ลา โรช-โพเซย์ เชื่อว่า การปกป้องผิวจากฝ้าเริ่มได้ตั้งแต่การดูแลผิวในทุกวัน การเลือกกันแดดที่มีคุณสมบัติปกป้องลึก (Protect) พร้อมฟื้นผิว แก้ปัญหาผิว (Correct) ในหนึ่งเดียว คือกุญแจสำคัญของการดูแลฝ้าอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน


ผิวที่มีฝ้าคือผิวที่ “อ่อนแอ” ต้องการการปกป้องที่มากกว่า

ปัจจัยกระตุ้นฝ้า: แสงแดด ฮอร์โมน ความร้อน และการอักเสบใต้ผิว

คนที่เคยเป็นฝ้ามักจะพบว่าฝ้ากลับมาเป็นซ้ำได้ง่าย แม้ไม่ได้โดนแดดจัด เพราะจริง ๆ แล้วผิวของเราสามารถผลิตเม็ดสีเมลานินจากสาเหตุอื่นได้ด้วย เช่น

  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ช่วงตั้งครรภ์ หรือรับประทานยาคุมกำเนิด
  • ความร้อนจากแสงอินฟราเรด เช่น แสงแดด ความร้อนจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่นเตาไมโครเวฟ ไดร์เป่าผม
  • การอักเสบเรื้อรังในผิว เช่น ผิวระคายเคืองจากการผลัดเซลล์บ่อย/รุนแรงเกินไป

ผิวที่บางลง = เกราะปกป้องผิวอ่อนแอลง

ปราการผิวที่อ่อนแอลง เสมือนกับกำแพงที่ไม่แข็งแรง นอกจากปกป้องผิวจากปัจจัยภายนอกไม่ดีพอ แล้วยังเพิ่มการสูญเสียน้ำออกจากผิว ส่งผลให้ผิวแห้ง อ่อนแอลง ไวต่อปัจจัยกระตุ้นต่างๆ เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้รังสียูวีทำร้ายผิวได้มากและง่ายขึ้น แม้เผชิญแสงแดดเพียงเล็กน้อย ในเวลาเล็กน้อย แต่กลับพบว่าผิวหมองคล้ำอย่างชัดเจน เช่นนี้เป็นต้น


ANTHELIOS UVMUNE 400 ANTI-DARK SPOTS FLUID SPF50+


ครีมกันแดดที่ตอบโจทย์ “ฝ้า” ต้องไม่ใช่แค่บล็อกแดด (Protect) แต่ยังช่วยแก้ปัญหาฝ้าไปพร้อมๆ กัน (Correct)

เลือกแค่ค่า SPF และ PA อาจไม่พอ ถ้าไม่กันรังสี Ultra Long UVA

หลายคนเข้าใจว่า SPF50+ คือการป้องกันได้ครอบคลุมทุกสิ่ง แต่ในความจริง SPF บ่งชี้ถึงความสามารถในการป้องกันผิวจากรังสี UVB (ที่ทำให้ผิวแสบ แดง ไหม้) ส่วนค่า PA คือค่าการปกป้องผิวจากรังสี UVA แต่อีกปัจจัยสำคัญของการทำร้ายผิวที่ขาดไปในหลายๆ ผลิตภัณฑ์กันแดดคือการปกป้องผิวจากรังสี UVA ในช่วงความยาวที่สามารถลงไปทำร้ายผิวได้ลึกที่สุด “Ultra Long UVA” และยังมีปริมาณสูงถึง 30% ของปริมาณยูวีจากแสงแดด อย่าลืมว่าแสงแดดเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ และยังทำให้การแก้ปัญหาฝ้าไม่เห็นผล (เห็นผลช้า ไม่ทันใจ) เพราะการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่ปกป้องที่ไม่เพียงพอนั่นเอง


ANTHELIOS UVMUNE 400 ANTI-DARK SPOTS FLUID SPF50+: ป้องกันลึก + ฟื้นผิวไปพร้อมกัน

ผลิตภัณฑ์กันแดดที่เข้าใจผิวที่มีฝ้าจึงควรป้องกันให้ครอบคลุมให้มากที่สุด เอาให้ถึง Ultra Long UVA และหากช่วยแก้ปัญหาจุดด่างดำในผิวได้ด้วยก็จะยิ่งเห็นผลได้เร็วและชัดเจนมากยิ่งขึ้น


ANTHELIOS UVMUNE 400 ANTI-DARK SPOTS FLUID SPF50+จากลา โรช-โพเซย์ คือ ครีมกันแดด สำหรับคนเป็นฝ้า ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ โดยเฉพาะ ด้วยคุณสมบัติเด่น

  • ปกป้องผิวจากรังสี UVB UVA หนึ่งเดียวที่ครอบคลุมถึง Ultra Long UVA
  • ผสาน “เมลาซิล (Melasyl)” สารสำคัญใหม่ที่ช่วยลดการผลิตเม็ดสีด้วยกลไกใหม่ และยังช่วยป้องกันการคล้ำจากแสงแดดได้ด้วย
  • มี “Netlock Technology” ช่วยเสริมประสิทธิภาพและเพิ่มการยึดเกาะผิว
  • เสริมปราการผิวให้แข็งแรง พร้อมเพิ่มความชุ่มชื้นคืนสู่ผิว
  • สูตรอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม และผ่านการทดสอบกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย และเป็นฝ้าได้ง่าย โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนัง
  • ประสิทธิภาพใกล้เคียงการใช้ 4%ไฮโดรควิโนน
  • เนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ เหมาะกับการใช้ทุกวันแม้ในสภาพอากาศร้อน เป็นสูตรกันน้ำได้ดีมาก (Very water resistant) เหงื่อเข้าตาแล้วไม่แสบตา

การใช้ครีมกันแดดให้ได้ผล ต้องมีวินัยและเข้าใจผิว

หากคุณกังวลเรื่องฝ้า หรือกำลังเผชิญปัญหาฝ้า คุณต้องเลือกใช้กันแดดที่มีค่าการปกป้องสูง (SPF50+/PA++++) ปกป้องได้ครอบคลุมถึง Ultra Long UVA และต้องทาในปริมาณที่ถูกต้อง คือ 2 mg/cm2 หรือเทียบเท่ากับ 2 ข้อนิ้งชี้สำหรับเนื้อครีม และหากเป็นผลิตภัณฑ์กันแดดสูตรที่เป็นฟลูอิด ต้องเขย่าก่อนใช้และเทออกมาบนอุ้งมือให้ได้ขนาดประมาณเหรียญ 10 บาททาทั่วใบหน้า แล้วรอให้ผลิตภัณฑ์กันแดดแห้งแล้วให้ทำซ้ำอีกรอบด้วยปริมาณเดียวกันทั่วใบหน้าและลำคอ (ปริมาตรรวมคือ 2 เหรียญ 10 บาท) แล้วทิ้งเวลาให้กันแดดเซ็ทตัวอย่างน้อย 15 นาที โดยไม่ไปสัมผัสใบหน้าใดๆ เมื่อครบเวลาจึงค่อยทำขั้นตอนต่อไปสำหรับใบหน้า เช่นการแต่งหน้าเป็นต้น

ส่วนการทากันแดดซ้ำระหว่างขึ้นอยู่กับกิจกรรมในวันนั้นๆ หากใช้ชีวิตในอาคาร ไม่ได้มีกิจกรรมกลางแจ้งเป็นเวลานาน อาจไม่จำเป็นต้องทาซ้ำระหว่างวัน แต่หากมีกิจกรรมกลางแจ้งก็ควรทากันแดดซ้ำระหว่างวัน


เสริมการดูแลฝ้าด้วยพฤติกรรมที่เข้าใจผิว

ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ส่งผลให้ปัญหาฝ้ารุนแรงมากขึ้นที่สำคัญที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดดจัด ร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์แก้ปัญหาฝ้าที่มีอยู่ (CORRECT) ด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และป้องกันการเกิดใหม่ของฝ้า (PROTECT) ด้วยผลิตภัณฑ์กันแดด


หลีกเลี่ยงสกินแคร์ที่รบกวนหรือรุนแรงต่อผิวเกินความจำเป็น

แม้จะอยากให้ฝ้าจางไว แต่การใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวหรือไวท์เทนนิ่งที่แรงเกินไป นอกจากจะทำให้ผิวบางลงแล้วยังทำให้ผิวอ่อนแอลงไวต่อการกระตุ้นให้เกิดปัญหาฝ้าเพิ่มมากขึ้น จึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว พร้อมการดูแลให้ผิวชุ่มชื้น ก็จะช่วยเสริมสร้างเกราะปกป้องผิวให้แข็งแรงขึ้นไปพร้อมกัน


เติมสารอาหารให้ผิวจากภายใน

ผิวที่แข็งแรงเริ่มต้นจากร่างกายที่สมดุล แนะนำให้รับประทานอาหารที่อุดมด้วยวิตามิน C, E, และ Zinc ซึ่งมีบทบาทในการลดการอักเสบ และควบคุมการผลิตเม็ดสีในระดับเซลล์

พักผ่อนให้เพียงพอ และลดความเครียดก็เป็นอีกหนึ่งวิธีสำคัญในการควบคุมฮอร์โมนที่อาจกระตุ้นการเกิดฝ้าได้


ครีมกันแดด สำหรับคนเป็นฝ้า laroche posay


สรุป: ครีมกันแดด สำหรับคนเป็นฝ้า ไม่ได้หยุดที่การกันแดด แต่คือการเริ่มต้นใหม่ของผิวที่แข็งแรง

การดูแลฝ้าไม่ควรเป็นเรื่องของการรักษาเมื่อสาย แต่คือการ “ป้องกัน” ตั้งแต่ต้นทาง ด้วย ครีมกันแดด สำหรับคนเป็นฝ้า ที่เข้าใจธรรมชาติของผิวไวต่อแสงอย่างแท้จริง

ANTHELIOS UVMUNE 400 ANTI-DARK SPOTS FLUID SPF50+ไม่ใช่แค่กันแดดธรรมดา แต่คือผู้ช่วยในการแก้ไขฝ้าที่มีอยู่เดิม (Correct) และป้องกันการเกิดฝ้าใหม่ (Protect) ได้อย่างมีประสิทธิภาพและอ่อนโยน ฝ้าอาจใช้เวลาในการดูแล แต่หากคุณเลือกวิธีที่ถูกต้องตั้งแต่วันนี้ ผิวที่สม่ำเสมอ เรียบเนียน และมั่นใจก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป