ปัญหาผิวแห้งเป็นเรื่องใกล้ตัวที่หลายคนมองข้าม แต่หากปล่อยไว้อาจนำไปสู่ปัญหาผิวลอกเป็นขุย ผิวแพ้ง่าย หรือเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ง่ายกว่าที่คิด และผิวแห้งยังส่งผลให้เกิดปัญหาใบหน้าหมองคล้ำ และจุดด่างดำได้ด้วยเช่นกัน การดูแลผิวที่แห้งอย่างถูกวิธีจึงไม่ใช่แค่การทาครีมทั่วไป แต่คือการเลือกสกินแคร์กู้ชีพผิวที่แห้ง ที่มีส่วนผสมหลักในการเติมและล็อกความชุ่มชื้น เพื่อฟื้นฟูเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ให้กลับมาแข็งแรง เนียนนุ่ม และเปล่งปลั่งดังเดิม

ทำความเข้าใจสาเหตุ ผิวแห้งเกิดจากอะไร?

ชวนทำความเข้าใจสาเหตุ ก่อนจะเลือกสกินแคร์ เราต้องรู้ก่อนว่าทำไมผิวถึงแห้ง โดยหลัก ๆ แล้วผิวที่แห้งเกิดจากภาวะที่ต่อมไขมันผลิตน้ำมันมาเคลือบผิวได้น้อยกว่าปกติ ทำให้ผิวไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้ดีเท่าที่ควร ปัจจัยกระตุ้นมีดังนี้

• ปัจจัยภายนอก: อากาศแห้ง (เช่น ในห้องแอร์ หรือช่วงฤดูหนาว), มลภาวะ, การอาบน้ำอุ่นจัดหรือร้อนจัด/อาบน้ำนานเกินไป, การใช้สบู่หรือคลีนเซอร์ที่มีฤทธิ์รุนแรง, และการเผชิญแสงแดดโดยไม่ป้องกัน
• ปัจจัยภายใน: อายุที่เพิ่มขึ้น (ทำให้การผลิตน้ำมันและเซราไมด์ลดลง), พันธุกรรม ความเครียด รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตเช่น การพักผ่อน การรับประทานอาหาร หรือการออกกำลังกายเป็นต้น

3 ส่วนผสมสำคัญที่สกินแคร์กู้ชีพต้องมี

3 ส่วนผสมสำคัญที่สกินแคร์กู้ชีพต้องมีเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูผิวที่แห้ง คือ การเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมครบถ้วนในการ เติมน้ำ (Humectants) ฟื้นฟูปราการผิว (Emollients) และล็อกความชุ่มชื้น (Occlusives) ส่วนผสมที่คุณควรมองหาในสกินแคร์สำหรับผิวแห้งมีดังนี้

สารเติมน้ำ เติมผิวให้อิ่มฟู

สารกลุ่มนี้ทำหน้าที่ดูดน้ำเข้าสู่ผิว ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้นและอิ่มฟูขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่วนผสมเด่น ๆ ได้แก่

• Hyaluronic Acid (HA): โมเลกุลมหัศจรรย์ที่สามารถกักเก็บน้ำได้มากกว่าน้ำหนักตัวหลายเท่า ช่วยให้ผิวเต่งตึงและลดเลือนริ้วรอยจากความแห้ง
• Glycerin (กลีเซอรีน): สารให้ความชุ่มชื้นพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพสูง และอ่อนโยนต่อผิว
• Panthenol (วิตามิน บี5): นอกจากเติมน้ำแล้ว ยังช่วยปลอบประโลมผิว และส่งเสริมการฟื้นฟูเซลล์ผิว

สารเสริมเกราะผิว สร้างผิวแข็งแรง

สารกลุ่มนี้ช่วยซ่อมแซมและเสริมความแข็งแรงให้กับเกราะป้องกันผิวที่เสียหาย ทำให้ผิวสามารถลดการสูญเสียน้ำได้ดีขึ้น

• Ceramide (เซราไมด์): เป็นไขมันที่จำเป็นต่อผิว (Skin Barrier) เปรียบเสมือน "ปูน" ที่เชื่อม "อิฐ" (เซลล์ผิว) ให้เรียงตัวแน่นหนา การเสริมเซราไมด์ช่วยลดอาการแพ้ ระคายเคือง และลดการสูญเสียน้ำได้ดีเยี่ยม
• Squalane (สควาเลน): น้ำมันที่คล้ายกับน้ำมันธรรมชาติของผิว ซึมซาบเร็ว ไม่เหนอะหนะ ช่วยให้ผิวเนียนนุ่มและมีความยืดหยุ่น
• Shea butter (เชีย บัตเตอร์) ทำหน้าที่ช่วยเสริมปราการผิวให้แข็งแรง

สารเคลือบผิว ล็อกความชุ่มชื้นยาวนาน

ทำหน้าที่สร้างชั้นฟิล์มบาง ๆ เคลือบผิวไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำที่เติมเข้าไประเหยออกไปจากผิว ส่วนผสมยอดนิยม ได้แก่ Shea Butter , Mineral Oil, และ Petrolatum ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงในเวลากลางคืนหรือใช้ในวันที่อากาศหนาวจัด

สกินแคร์กู้ชีพวันที่ผิวเกิดอาการแห้ง

สกินแคร์กู้ชีพวันที่ผิวเกิดอาการแห้ง เมื่อรู้ถึงส่วนผสมที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวแล้ว ก็ควรมองหาสกินแคร์ที่ช่วยฟื้นฟู้ผิวโดยมีส่วนผสมดังกล่าวเป็นส่วนประกอบ เช่น ซิคาพลาส โบม บี 5+ (CICAPLAST BAUME B5+) มอยซ์เจอไรเซอร์สูตรเข้มข้น เน้นการบำรุงและเสริมกระบวนการซ่อมแซมผิว ช่วยปลอบประโลมและฟื้นฟูบำรุงสภาพผิว เนื้อสัมผัสเข้มข้น ไม่เหนียวเหนอะหนะ เป็นสูตรอ่อนโยน ใช้ได้กับผิวหน้าและผิวกาย ผ่านการทดสอบกับผิวบอบบาง ระคายเคืองง่าย ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนัง และยังสามารถใช้เพื่อลดอาการระคายเคืองไม่สบายผิวที่เกิดจากอาการข้างเคียงจากการรักษามะเร็งได้ด้วยเช่นกัน

ส่วนผสมสำคัญ

CICAPLAST คือ กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลผิวที่อ่อนแอ ถูกทำร้ายเน้นการปลอบประโลมฟื้นบำรุงและปกป้องกลไกของปราการผิว ที่มีส่วนผสมสำคัญได้แก่

• ไตรไบโอม่า (TRIBIOMA) สารที่ผสานศาสตร์แห่งไมโครไบโอมเสริมให้ผิวมีสุขภาพดี พรีไบโอติก ที่อุดมไปด้วยสารบำรุงทรงพลัง
• แพนธีนอล (VITAMIN B5) ปลอบประโลม ลดอาการระคายเคืองไม่สบายผิว
• มาดิคัสโซไซด์ (Madicassoside) เสริมกระบวนการซ่อมแซมผิวฟื้นบำรุงและเสริมปราการผิว เพื่อผิวดูสุขภาพดีแข็งแรง
• น้ำแร่ธรรมชาติ ลาโรช-โพเซย์ ช่วยปลอบประโลมผิวให้รู้สึกสบาย และฟื้นบำรุงผิวให้ดูสุขภาพดี

เมื่อรู้ถึงส่วนผสมที่ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งให้กลับเนียนนุ่มชุ่มชื้นแล้ว จะช่วยให้สามารถเลือกสกินแคร์กู้ชีพให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น ซึ่ง CICAPLAST BAUME B5+ เป็นมอยซ์เจอไรเซอร์สูตรเข้มข้น แต่อ่อนโยนบำรุงผิวที่มีส่วนผสมสำคัญในการฟื้นฟู เหมาะกับผู้ที่มีผิวแห้งและผิวที่มีแนวโน้มระคายเคืองง่าย และสามารถใช้ได้กับทุกคนในครอบครัวรวมถึงเด็กเล็ก (ผ่านการทดสอบกับเด็กอายุ 1 สัปดาห์ขึ้นไปภายใต้การดูแลของกุมารแพทย์และแพทย์ผิวหนัง)