เดิมทีผิวมันมักจะพบปัญหาใบหน้ามันเงา รูขุมขนกว้างเนื่องจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากผิดปกติ ส่งผลให้เป็นประเภาผิวที่มักมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย และหากเพิ่มปัจจัยกระตุ้นทั้งแสงแดด และมลภาวะ ก็จะยิ่งส่งผลต่อปัญหาสิว และมีงานวิจัยที่พบว่าอุณหภูมิที่เพิ่มมากขึ้นเพียงหนึ่งองศาเซลเซียสสามารถกระตุ้นให้ต่อมไขมันมีการผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้นถึง 10% ซึ่งสามารถส่งผลให้เกิดปัญหาสิวได้เช่นกัน นอกจากสามารถกระตุ้นให้มีการผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้นแล้ว รังสียูวียังสามารถกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ (Free radicals) ที่จะไปทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับน้ำมันเคลือบผิว ส่งผลให้เกิดการอุดตัน และเกิดการอักเสบของสิวอักเสบเพิ่มมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นแสงแดดยังส่งผลให้รอยแดง รอยดำที่เกิดจากสิวเข้มมากขึ้น จึงต้องมีวิธีการแก้ปัญหาการเกิดสิวอย่างถูกวิธี
การแก้ปัญหาสิวที่ดีที่สุด ทำอย่างไร
การแก้ปัญหาสิวที่ดีที่สุด สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้- การป้องกันสิวเกิดใหม่ โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นของการเกิดสิว เราอาจต้องคอยสังเกตว่ามีปัจจัยอะไรที่กระตุ้นหรือทำให้เกิดปัญหาสิว เช่นการพักผ่อนไม่เพียงพอ การรับประทานอาหารบางชนิด รวมถึงมลภาวะและแสงแดดด้วย
- การแก้ไขปัญหาสิวที่เป็นอยู่ ทั้งสิวอุดตัน สิวอักเสบ รวมไปถึงรอยแดง รอยดำที่เกิดจากสิว โดยอาจจะใช้เป็นผลิตภัณฑ์ลดสิว เซรั่มลดรอยสิว หรือปรึกษาแพทย์โดยตรง
การรักษาสิว ดูแลปัญหาสิว มีกี่ขั้นตอน
ในปี 2025 การรักษาสิว ดูแลปัญหาสิวด้วย 3 ขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญ ที่ช่วยลดปัญหาสิวอุดตัน สิวอักเสบ ลดรอยแดง และรอยดำของสิว ได้แก่เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าทีมีคุณสมบัติลดการเกิดสิว
เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีคุณสมบัติลดการเกิดสิวดังนี้- สูตรที่ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic)
- สูตรที่มีโอกาสเกิดอาการแพ้ต่ำ (Hypoallergenic)
- สูตรอ่อนโยน ปราศจากสารที่อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองเช่น สารสบู่ แอลกอฮอล์ และ สารกันเสียกลุ่มพาราเบน เป็นต้น
- ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ใกล้เคียงกับผิว เพื่อรักษาสมดุลความเป็นกรด-ด่างบนผิว ที่ส่งผลต่อการซึมผ่านของครีมรักษาสิว เซรั่มลดรอยสิวในขั้นตอนการบำรุง รวมไปถึงสมดุลของไมโครไบโอมบนผิวอีกปัจจัยสำคัญที่้เกี่ยวข้องกับปัญหาสิวโดยตรง
การบำรุงและแก้ปัญหาสิวด้วยครีมรักษาสิว
เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารสำคัญสำหรับการแก้ปัญหาสิว โดยพิจารณาจาก 4 สาเหตุหลักของการเกิดสิว เช่น- การผลิตน้ำมันมากเกินไป : ผิวที่ผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ทำให้รูขุมขนอุดตันง่าย และเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของเชื้อแบคทีเรีย
- การแบ่งเซลล์ผิวมากเกินไป : เซลล์ผิวเก่าของเราไม่ได้หลุดลอกไปตามปกติ ทำให้ไปอุดตันอยู่ในรูขุมขน
- การเสียสมดุลแบคทีเรียบนผิว : เมื่อมีน้ำมันและเซลล์ผิวอุดตัน เชื้อแบคทีเรียที่อยู่บนผิวเราปกติอยู่แล้ว เกิดการเสียสมดุล พบแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มมากขึ้น นำไปสู่ปัญหาสิวได้
- ผิวอักเสบ : จากกลไกภายในผิว ที่อาจเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การพักผ่อน การกิน ความเครียดผ่านกลไกของอนุมูลอิสระ
เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารสำคัญที่จัดการ 4 สาเหตุหลักของการเกิดสิว
- ลดการผลิตน้ำมัน: มองหาส่วนผสมอย่าง "ซิงค์" (Zinc) ที่ช่วยคุมความมันบนใบหน้า
- ช่วยผลัดเซลล์ผิว: สารในกลุ่ม "ซาลิไซลิก แอซิด" (Salicylic Acid), "ไกลโคลิก แอซิด" (Glycolic Acid) หรือ "LHA" จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และขจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขนได้อย่างล้ำลึก
- ลดการอักเสบ: "ไนอะซินาไมด์" (Niacinamide หรือวิตามินบี 3) เป็นตัวช่วยสำคัญที่ลดการอักเสบ รอยแดงจากสิว และยังช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังมีความอ่อนโยนต่อผิวแม้ใช้ในปริมาณความเข้มข้นที่สูง ๆ ก็แทบจะไม่ส่งผลต่อการระคายเคืองต่อผิวเหมือนสารสำคัญอื่น ๆ
- ลดเชื้อแบคทีเรียก่อสิว หรือปรับสมดุลจุลินทรีย์บนผิว (Skin microbiome): การรักษาสมดุลของแบคทีเรียดีบนผิวก็สำคัญ ช่วยลดการเพิ่มจำนวนของเชื้อแบคทีเรียก่อสิวได้ เช่นสารอควาโพเซย์ฟิลิฟอร์มิส (APF) หรือ ไฟโลไบโอม่า (Phylobioma) สารสำคัญที่ช่วยดูแลปัญหาสิวจากศาสตร์แห่งไมโครไบโอม
- เสริมสารสำคัญที่ช่วยลดรอยแดง รอยดำของสิว เช่นสารไนอะซินาไมด์ สารโปรซีราด (Procerad) เป็นต้น
การปกป้องผิวด้วยผลิตภัณฑ์กันแดด
เพื่อปกป้องแสงแดดที่ส่งต่อกระตุ้นให้มีการผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาสิว และแสงแดดยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รอยสิวเข้มมากขึ้น ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาสิวจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด นอกจากการปกป้องแล้วผลิตภัณฑ์กันแดดยังช่วยดูแลปัญหาสิวได้ด้วย เช่น ลดปัจจัยกระตุ้นการผลิตน้ำมัน แก้ปัญหาความมันส่วนเกิน ลดปัญหาสิว และช่วยให้รอยสิวต่าง ๆ ดูจางลงไปด้วย โดยเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีคุณสมบัติ ดังนี้- ปกป้องได้ดีทั้งรังสียูวี และปัจจัยอื่น ๆ เช่นรังสีความร้อน (อินฟราเรด) มลภาวะที่ล้วนส่งผลให้เกิดปัญหาสิว
- เป็นสูตรที่ไม่ทำให้อุดตัน (Non-comedogenic)
- เนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบขาว เพื่อการใช้ปริมาณกันแดดที่ถูกต้องและเหมาะสม
- มีคุณสมบัติกันน้ำ (Very Water Resistant) กันเหงื่อ เพื่อให้เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง หรือการต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นเวลานาน อาจเพิ่มเติมด้วยคุณสมบัติอื่นๆ เช่นไม่แสบตาแม้เหงื่อเข้าตา ขณะออกกำลังกาย
- มีสารสำคัญที่ช่วยแก้ปัญหาสิว เช่นสารที่ช่วยลดการผลิตน้ำมัน ดูดซับความมัน เช่น ซิงค์ (Zinc), บิกซ์’แอคทิฟ (Bix’Activ), แอร์ลิเซียม (Airlicium)
สรุป
เพียงแค่ขั้น 3 ตอนง่าย ๆ สำหรับวิธีดูแลและจัดการกับปัญหารอยแดง รอยดำ จุดด่างดำที่เกิดจากการเป็นสิว ไม่ว่าเราจะเลือกใช้ครีมรักษาสิวหรือเซรั่มลดรอยสิวใด ๆ ก็ต้องยึดการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพเป็นหลัก ซึ่งนั่นก็คือการป้องกันและการแก้ไขที่ควรทำไปพร้อม ๆ กัน เพื่อผิวสวยสุขภาพดี โดยเฉพาะผิวที่มีปัญหาสิว ผิวผสม-ผิวมัน ในช่วงฤดูกาลแห่งการกระตุ้นของการเกิดสิว ที่เพิ่งเริ่มต้นReferences: