วิธีดูแลและจัดการกับปัญหารอยสิว
จุดด่างดำจากสิว ฉบับอัปเดต 2025

7 min read


ไม่ว่าจะฤดูกาลไหน ไม่ว่าอากาศจะร้อน หรือไม่ร้อน ล้วนส่งผลกระทบต่อปัญหาผิวด้วยกันทั้งสิ้น เพราะไม่ว่าจะมีสภาพอากาศแบบไหน สิ่งที่ไม่เคยจากเราไปเลย คือ “แสงแดด” โดยเฉพาะปริมาณรังสียูวี (UV index) ปริมาณของความเข้มของรังสี UV ที่ฉายลงมาบนพื้นผิวโลก ซึ่งค่าของ UV index ของประเทศไทยของเราไม่เคยแผ่ว อยู่ในระดับ “สูงจัด” ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ทุกฤดู จึงส่งผลต่อสุขภาพผิวของทุกคน โดยเฉพาะคนที่มีผิวมัน หรือผิวผสม จะได้รับผลกระทบมากกว่าผิวประเภทอื่น

เดิมทีผิวมันมักจะพบปัญหาใบหน้ามันเงา รูขุมขนกว้างเนื่องจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันมากผิดปกติ ส่งผลให้เป็นประเภาผิวที่มักมีแนวโน้มเป็นสิวง่าย และหากเพิ่มปัจจัยกระตุ้นทั้งแสงแดด และมลภาวะ ก็จะยิ่งส่งผลต่อปัญหาสิว และมีงานวิจัยที่พบว่าอุณหภูมิที่เพิ่มมากขึ้นเพียงหนึ่งองศาเซลเซียสสามารถกระตุ้นให้ต่อมไขมันมีการผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้นถึง 10% ซึ่งสามารถส่งผลให้เกิดปัญหาสิวได้เช่นกัน นอกจากสามารถกระตุ้นให้มีการผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้นแล้ว รังสียูวียังสามารถกระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระ (Free radicals) ที่จะไปทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับน้ำมันเคลือบผิว ส่งผลให้เกิดการอุดตัน และเกิดการอักเสบของสิวอักเสบเพิ่มมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นแสงแดดยังส่งผลให้รอยแดง รอยดำที่เกิดจากสิวเข้มมากขึ้น จึงต้องมีวิธีการแก้ปัญหาการเกิดสิวอย่างถูกวิธี

การแก้ปัญหาสิวที่ดีที่สุด ทำอย่างไร

การแก้ปัญหาสิวที่ดีที่สุด สามารถแบ่งออกได้ ดังนี้
  • การป้องกันสิวเกิดใหม่ โดยการหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นของการเกิดสิว เราอาจต้องคอยสังเกตว่ามีปัจจัยอะไรที่กระตุ้นหรือทำให้เกิดปัญหาสิว เช่นการพักผ่อนไม่เพียงพอ การรับประทานอาหารบางชนิด รวมถึงมลภาวะและแสงแดดด้วย
  • การแก้ไขปัญหาสิวที่เป็นอยู่ ทั้งสิวอุดตัน สิวอักเสบ รวมไปถึงรอยแดง รอยดำที่เกิดจากสิว โดยอาจจะใช้เป็นผลิตภัณฑ์ลดสิว เซรั่มลดรอยสิว หรือปรึกษาแพทย์โดยตรง

การรักษาสิว ดูแลปัญหาสิว มีกี่ขั้นตอน

ในปี 2025 การรักษาสิว ดูแลปัญหาสิวด้วย 3 ขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญ ที่ช่วยลดปัญหาสิวอุดตัน สิวอักเสบ ลดรอยแดง และรอยดำของสิว ได้แก่


เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใบหน้าทีมีคุณสมบัติลดการเกิดสิว

เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีคุณสมบัติลดการเกิดสิวดังนี้
  • สูตรที่ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic)
  • สูตรที่มีโอกาสเกิดอาการแพ้ต่ำ (Hypoallergenic)
  • สูตรอ่อนโยน ปราศจากสารที่อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองเช่น สารสบู่ แอลกอฮอล์ และ สารกันเสียกลุ่มพาราเบน เป็นต้น
  • ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ใกล้เคียงกับผิว เพื่อรักษาสมดุลความเป็นกรด-ด่างบนผิว ที่ส่งผลต่อการซึมผ่านของครีมรักษาสิว เซรั่มลดรอยสิวในขั้นตอนการบำรุง รวมไปถึงสมดุลของไมโครไบโอมบนผิวอีกปัจจัยสำคัญที่้เกี่ยวข้องกับปัญหาสิวโดยตรง

การบำรุงและแก้ปัญหาสิวด้วยครีมรักษาสิว

เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารสำคัญสำหรับการแก้ปัญหาสิว โดยพิจารณาจาก 4 สาเหตุหลักของการเกิดสิว เช่น
  • การผลิตน้ำมันมากเกินไป : ผิวที่ผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป ทำให้รูขุมขนอุดตันง่าย และเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของเชื้อแบคทีเรีย
  • การแบ่งเซลล์ผิวมากเกินไป : เซลล์ผิวเก่าของเราไม่ได้หลุดลอกไปตามปกติ ทำให้ไปอุดตันอยู่ในรูขุมขน
  • การเสียสมดุลแบคทีเรียบนผิว : เมื่อมีน้ำมันและเซลล์ผิวอุดตัน เชื้อแบคทีเรียที่อยู่บนผิวเราปกติอยู่แล้ว เกิดการเสียสมดุล พบแบคทีเรียที่ทำให้เกิดการอักเสบเพิ่มมากขึ้น นำไปสู่ปัญหาสิวได้
  • ผิวอักเสบ : จากกลไกภายในผิว ที่อาจเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การพักผ่อน การกิน ความเครียดผ่านกลไกของอนุมูลอิสระ

เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารสำคัญที่จัดการ 4 สาเหตุหลักของการเกิดสิว

  • ลดการผลิตน้ำมัน: มองหาส่วนผสมอย่าง "ซิงค์" (Zinc) ที่ช่วยคุมความมันบนใบหน้า
  • ช่วยผลัดเซลล์ผิว: สารในกลุ่ม "ซาลิไซลิก แอซิด" (Salicylic Acid), "ไกลโคลิก แอซิด" (Glycolic Acid) หรือ "LHA" จะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว และขจัดสิ่งอุดตันในรูขุมขนได้อย่างล้ำลึก
  • ลดการอักเสบ: "ไนอะซินาไมด์" (Niacinamide หรือวิตามินบี 3) เป็นตัวช่วยสำคัญที่ลดการอักเสบ รอยแดงจากสิว และยังช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้นด้วย นอกจากนี้ยังมีความอ่อนโยนต่อผิวแม้ใช้ในปริมาณความเข้มข้นที่สูง ๆ ก็แทบจะไม่ส่งผลต่อการระคายเคืองต่อผิวเหมือนสารสำคัญอื่น ๆ
  • ลดเชื้อแบคทีเรียก่อสิว หรือปรับสมดุลจุลินทรีย์บนผิว (Skin microbiome): การรักษาสมดุลของแบคทีเรียดีบนผิวก็สำคัญ ช่วยลดการเพิ่มจำนวนของเชื้อแบคทีเรียก่อสิวได้ เช่นสารอควาโพเซย์ฟิลิฟอร์มิส (APF) หรือ ไฟโลไบโอม่า (Phylobioma) สารสำคัญที่ช่วยดูแลปัญหาสิวจากศาสตร์แห่งไมโครไบโอม
  • เสริมสารสำคัญที่ช่วยลดรอยแดง รอยดำของสิว เช่นสารไนอะซินาไมด์ สารโปรซีราด (Procerad) เป็นต้น

การปกป้องผิวด้วยผลิตภัณฑ์กันแดด

เพื่อปกป้องแสงแดดที่ส่งต่อกระตุ้นให้มีการผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาสิว และแสงแดดยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รอยสิวเข้มมากขึ้น ดังนั้นผู้ที่มีปัญหาสิวจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์กันแดด นอกจากการปกป้องแล้วผลิตภัณฑ์กันแดดยังช่วยดูแลปัญหาสิวได้ด้วย เช่น ลดปัจจัยกระตุ้นการผลิตน้ำมัน แก้ปัญหาความมันส่วนเกิน ลดปัญหาสิว และช่วยให้รอยสิวต่าง ๆ ดูจางลงไปด้วย โดยเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีคุณสมบัติ ดังนี้
  • ปกป้องได้ดีทั้งรังสียูวี และปัจจัยอื่น ๆ เช่นรังสีความร้อน (อินฟราเรด) มลภาวะที่ล้วนส่งผลให้เกิดปัญหาสิว
  • เป็นสูตรที่ไม่ทำให้อุดตัน (Non-comedogenic)
  • เนื้อบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ทิ้งคราบขาว เพื่อการใช้ปริมาณกันแดดที่ถูกต้องและเหมาะสม
  • มีคุณสมบัติกันน้ำ (Very Water Resistant) กันเหงื่อ เพื่อให้เหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้ง หรือการต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นเวลานาน อาจเพิ่มเติมด้วยคุณสมบัติอื่นๆ เช่นไม่แสบตาแม้เหงื่อเข้าตา ขณะออกกำลังกาย
  • มีสารสำคัญที่ช่วยแก้ปัญหาสิว เช่นสารที่ช่วยลดการผลิตน้ำมัน ดูดซับความมัน เช่น ซิงค์ (Zinc), บิกซ์’แอคทิฟ (Bix’Activ), แอร์ลิเซียม (Airlicium)

สรุป

เพียงแค่ขั้น 3 ตอนง่าย ๆ สำหรับวิธีดูแลและจัดการกับปัญหารอยแดง รอยดำ จุดด่างดำที่เกิดจากการเป็นสิว ไม่ว่าเราจะเลือกใช้ครีมรักษาสิวหรือเซรั่มลดรอยสิวใด ๆ ก็ต้องยึดการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพเป็นหลัก ซึ่งนั่นก็คือการป้องกันและการแก้ไขที่ควรทำไปพร้อม ๆ กัน เพื่อผิวสวยสุขภาพดี โดยเฉพาะผิวที่มีปัญหาสิว ผิวผสม-ผิวมัน ในช่วงฤดูกาลแห่งการกระตุ้นของการเกิดสิว ที่เพิ่งเริ่มต้น

References:
  1. https://ozone.tmd.go.th/UV_index.htm
  2. https://www.tmd.go.th/warning-and-events/special-events/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%
    B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A8%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%
    B8%A1%E0%B8%95%E0%B8%99%E0%B8%A4%E0%B8%94%E0%B8%A3%
    E0%B8%AD%E0%B8%99-%E0%B8%9B-%E0%B8%9E-%E0%B8%A8-2567